Metaverse คือ โลกเสมือนจริง ที่ผสมผสานแง่มุมต่างๆของเทคโนโลยีออนไลน์ เช่น การประชุมทางวิดีโอ เกมอย่างเช่น Minecraft หรือ Roblox สกุลเงินดิจิทัล อีเมล การจำลองที่เชื่อมโลกจริงกับโลกจำลอง โซเชียลมีเดีย และการถ่ายทอดสด แน่นอนว่ายักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีทั้งหลาย ต่างก็มองว่านี่คืออนาคตของโลกการสื่อสารและการมีปฏิสัมพันธ์ของมนุษย์ Mark Zuckerberg เจ้าของแพล็ตฟอร์ม Facebook กล่าวว่า “นี่คือดินแดนแห่งอนาคต” และตอกย้ำความเชื่อด้วยการเปลี่ยนชื่อบริษัทจาก Facebook เป็น Meta Platforms Inc.
Metaverse คือ VR ใช่หรือไม่?
หากจะอธิบายให้เข้าใจแนวคิดนี้ง่ายขึ้น อาจพูดได้ว่า Metaverse ไม่ใช่สิ่งๆเดียว หรือผลิตภัณฑ์เพียงชิ้นเดียว มันจะไม่ใช่แค่เกม และไม่ได้ถูกสร้างขึ้นโดยบริษัทเดียวแน่นอน หากคุณเคยเห็นเว็บไซต์แบบ 3 มิติ คุณอาจจะพอนึกออก แต่หากไม่เคยเห็น ลองเข้าไปดูที่ Google Map แบบสตรีทวิวได้ นอกจากนี้ในโลกของ Metaverse ทั้งธุรกิจ ข้อมูลและเครื่องมือสื่อสารจะมีความสมจริงมากขึ้นและสามารถทำงานร่วมกันได้ โดยจะเชื่อมต่อกับโลกที่เราอาศัยอยู่จริง แบบเรียลไทม์
คล้ายๆกับการที่คุณสร้างเอกสารใน Microsoft Word และส่งผ่าน Gmail ไปยังเพื่อนร่วมงาน เพื่อให้พวกเขาสามารถเปิดอ่านบน iPad ได้ ดังนั้นไอเทมใน metaverse ควรจะสามารถส่งต่อผ่านระบบการหมุนเวียนของผลิตภัณฑ์ที่แข่งขันกันได้ โดยยังรักษาคุณค่าและฟังก์ชันไว้ ตัวอย่างเช่น งานศิลปะออนไลน์ที่เป็นของแท้ ซื้อขายด้วยโทเค็น (Token) xitg4mที่เปลี่ยนคืนไม่ได้ หรือที่เรียกว่า NFT จากบริษัท A (นามสมมติ) ควรจะสามารถนำไปแขวนบนผนังบ้านเสมือนในเกมที่สร้างโดยบริษัท B (นามสมมติ) ได้ด้วย
คุณจะทำอะไรได้บ้างในโลกเสมือน?
คุณสามารถใช้ระบบ Metaverse เพื่อทำงานและเล่นเกมได้ ตัวอย่างเช่น “นาย A (นามสมมติ)” สร้างอวตาร 3 มิติของเขาขึ้น ซึ่งเป็นการแสดงตัวตนแบบดิจิทัลภายในแพล็ตฟอร์ม Facebook หรือ Microsoft Teams เพื่อใช้ในการประชุมที่สำนักงานเสมือนจริง และหลังเลิกงาน เขามีตั๋วเข้าชมคอนเสิร์ตเสมือนจริงกับเพื่อน ๆ ดังนั้นอวตารทั้งหมดของพวกเขาก็ปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางผู้ชมหลายร้อยคนในคอนเสิร์ตดังกล่าว
หลังจากดนตรีจบลงและวงดนตรีพูดว่า “อย่าลืมซื้อเสื้อยืด!” นาย A ก็สามารถเรียกดูแบบเสื้อได้ที่แผงร้านค้าของวงดนตรี เช่นเดียวกับที่เขาทำได้ใน Lazada, Shopee หรือ Aliexpress ในชีวิตจริง และจ่ายด้วยสกุลเงินดิจิตอล เมื่อซื้อแล้วตัวอวตารของนาย A จะสามารถสวมใส่เสื้อยืดนั้นไปที่สำนักงานเสมือนในวันถัดไปได้ หากเพื่อนร่วมงานขอยืมเสื้อยืดตัวนั้นเพื่อให้ลูกสาวของเขาใช้ในเกม Roblox ในเย็นวันนั้นก่อน และนาย A ก็ตกลงให้ยืมได้ สถานการณ์ง่ายๆที่เกี่ยวข้องกับเครื่องมือสื่อสารขององค์กร การสตรีมเหตุการณ์สด อีคอมเมิร์ซ การซื้อขายออนไลน์ และการแบ่งปันสิ่งที่มีค่า แต่จะใช้ได้ก็ต่อเมื่อผู้ให้บริการแต่ละรายสร้างระบบในลักษณะที่ทำให้ทรัพย์สิน เช่น อวตารและเสื้อผ้าเหล่านั้นเข้ากันและสามารถโอนให้กันได้
ใครเข้าร่วมเกมนี้แล้วบ้าง?
มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก เปิดเผยว่าบริษัทของเขาวางแผนที่จะลงทุน 1 หมื่นล้านดอลลาร์ใน Reality Labs ในปี 2564 ซึ่งเป็นแผนก Meta ที่ผลิตฮาร์ดแวร์ เช่น ชุดหูฟังเสมือนจริง และส่วนในเวอร์ชั่นของบริษัท Microsoft Teams ที่วางแผนไว้ใช้งานจริงในปี 2565 คือจะอนุญาตให้ใช้อวตารในการแชร์ไฟล์ PowerPoint หรือ Excel ได้
บริษัท Nvidia Corp ผู้ผลิตชิปกราฟิกคอมพิวเตอร์ ต้องการให้แพลตฟอร์ม Omniverse ของพวกเขาสามารถขับเคลื่อนเฟรมเวิร์กพื้นฐานบางส่วนใน metaverse ได้ด้วย เช่นเดียวกับบริษัท Unity Software ผู้ผลิตซอฟต์แวร์ และบริษัท Roblox Corp ผู้พัฒนาวิดีโอเกม ที่รวมถึงบริษัท Epic Games Inc และ บริษัท Microsoft Corp ที่ต่างก็ต้องการส่วนแบ่งของตลาดนี้ด้วย แม้แต่บริษัท Roblox ที่อยู่ในประเทศจีนและผ่านการร่วมทุนกับบริษัท Tencent Holdings Ltd. ก็ยังเปิดตัวแพลตฟอร์มคู่ขนานที่สามารถเป็นไปตามกฎการควบคุมของรัฐบาลจีนอีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีบริษัท Tencent ที่ได้จดทะเบียนการค้าเกี่ยวกับ metaverse ในแอพ QQ และบริษัท ByteDance Ltd. เจ้าของแพล็ตฟอร์ม TikTok ก็ได้ทุ่มเงินให้กับบริษัท Pico ที่เป็นผู้ผลิตชุดหูฟัง VR และบริษัท Reworld ที่เป็นผู้ผลิตเกมมือถืออีกด้วย
ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือบางราย กำลังสร้างแพลตฟอร์ม metaverse ของตนเองอยู่ และเริ่มมีแม้กระทั่งที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เช่น บริษัท Dubit ที่ตั้งอยู่ในสหราชอาณาจักร ที่จะช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถก้าวเข้าสู่ metaverse ได้ และอย่าลืมผู้ให้บริการด้านการชำระเงินกับ cryptocurrencies ที่จะเข้ามามีบทบาทในการอำนวยความสะดวกเพื่อการทำธุรกรรมข้ามพรมแดนนี้ด้วย
อินเตอร์เน็ตที่มีอยู่จะรองรับ Metaverse เพียงพอไหม?
หากความเร็วอินเตอร์เน็ตไม่พอ Metaverse อาจเข้าถึงศักยภาพได้ไม่เต็มที่จริงหรือ? ผู้คนนับล้านจะสามารถเข้าถึงและใช้ชีวิตในโลกเสมือนจริงได้ทุกที่ ทุกเวลา โดยไม่ต้องใช้อินเทอร์เน็ตที่เร็วมากก็ได้ สิ่งสำคัญกว่านั้นคือโลกออนไลน์ Second Life ซึ่งเปิดตัวในปี 2546 ก่อนที่สมาร์ทโฟนจะเข้ามามีบทบาทแต่ก็สูญเสียความน่าสนใจไปส่วนหนึ่ง เนื่องจากในช่วงนั้นไม่สามารถโต้ตอบแบบเรียลไทม์ขณะเดินทางได้
ปัจจุบันนี้การเชื่อมต่อแบบ 4G สามารถรองรับเกมที่มีผู้เล่นหลายคนอย่าง Fortnite ได้ แต่ไม่สามารถจัดการสตรีมข้อมูลที่ละเอียดอ่อนตามเวลาหลายร้อยรายการพร้อมกันได้ นั่นเป็นสาเหตุที่ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือทั่วโลกใช้เงินหลายพันล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างเครือข่าย 5G ขึ้นมา และเพื่อเดินหน้าต่อไปอาจต้องใช้ถึง 6G ที่อาจใช้เวลาหลายปีในการพัฒนาแต่จะมีความเร็วมากกว่าถึง 100 เท่า สำหรับการใช้งานที่บ้านและที่ทำงาน มีความต้องการความเร็วแบบการเชื่อมต่อสายไฟเบอร์ออปติกเข้ากับอาคารโดยตรงมากกว่า
ความเสี่ยงที่คุณควรรู้
แพลตฟอร์มที่เกิดขึ้นใหม่ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป อาจเป็นลักษณะของการก้าวกระโดดทางเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกับการเปลี่ยนแปลงรูปแบบเว็บที่เกิดขึ้นในช่วงปี 2533 จากเนื้อหาที่มีเพียงข้อความและภาพนิ่งบนหน้าเว็บ พัฒนาเป็นเว็บไซต์ที่สามารถซื้อหนังสือหรือดูภาพยนตร์ได้ จากนั้นก็สามารถเข้าสู่การบรรยายในวิทยาลัยและออกแบบผลิตภัณฑ์ร่วมกันได้
ในขณะที่ตอนนี้ Metaverse กำลังถูกผลักไสไปยังวงการเกมและพื้นที่เฉพาะอื่น ๆ มากกว่า แต่ทศวรรษหน้าอาจเปลี่ยนแปลงวิธีที่ผู้คนจะรวมตัวกัน โต้ตอบ และใช้จ่ายกันในวงกว้างมากขึ้น เป็นการสร้างประสบการณ์ชีวิตเสมือนจริงที่แตกต่างออกไป เป็นรูปแบบการจินตนาการในอนาคต ที่เคยพบเห็นในนวนิยายแนววิทยาศาสตร์ เช่น “Snow Crash” ของ Neal Stephenson และภาพยนตร์ เช่น “The Matrix” และ “Ready Player One” จะสังเกตได้ว่าแต่ละเรื่องแสดงให้เห็นถึงรูปแบบของโทเปียนั่นเอง
ควรลงทุนกับเหรียญดิจิตอลใด ในโลกของ Metaverse?
หลังจากกำเนิดโปรเจ็คโลกเสมือน เหรียญดิจิตอลที่ถูกวางตัวเอาไว้ใช้จ่ายในโปรเจ็คเหล่านั้น รวมถึงเหรียญที่มีโปรเจ็คจะสร้างโลกเสมือนขึ้นมาก็คือ
- Facebook Tokenized Stock (FB) คือเป็นเหรียญที่สร้างขึ้นโดยบริษัท Facebook หรือตอนนี้เปลี่ยนชื่อเป็น Meta เพื่อแสดงความพร้อมเข้าสู่โลก Metaverse อย่างเต็มตัว
- Axie Infinity (AXS) ซึ่ง Axie Infinity ก็คือเกมที่ใช้ NFT ที่ให้บริการอยู่บนเครือข่าย Ethereum ที่ทำให้ผู้เล่นสามารถผสมพันธุ์ เลี้ยงดู และต่อสู้กับสัตว์เลี้ยงดิจิทัลของผู้อื่น แล้วจะได้รับรางวัลเป็นเหรียญ AXS
- Decentraland (MANA) ที่มีแพลตฟอร์มเสมือนจริงโดยสร้างขึ้นในบล็อกเชน Ethereum ที่อนุญาตให้ผู้ใช้สร้างสามารถสัมผัสประสบการณ์ และสร้างรายได้จากการสร้างเนื้อหา และในบรรดาเหรียญคริปโตที่มีความเกี่ยวข้องกับ metaverse ที่ราคาพุ่งขึ้นสูงในเวลาอันสั้นก็มีรายชื่อเหรียญ MANA รวมอยู่ด้วยและถือว่าเหรียญ MANA เป็นเหรียญแถวหน้าของการพุ่งราคาขึ้นครั้งนี้ด้วย โดยเหรียญ MANA นั้นจะใช้ใน metaverse เพื่อซื้อขายอวตาร,อุปกรณ์สวมใส่และอื่นๆ และจะมีการเผาเหรียญเพื่อรับ LAND ซึ่งเป็นอีกวิธีหนึ่งในการลด Supply ของเหรียญได้เป็นอย่างดี
- Enjin Coin(ENJ) เป็นเหรียญประเภท ERC-20 บนเครือข่าย Enjin ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเกมที่อนุญาตให้ผู้ใช้สามารถสร้างเว็บไซต์ แชท และร้านค้าไอเท็มเสมือน โดยเหรียญ ENJ มีมูลค่าตลาดเป็นที่สามรองจาก MANA และ AXS ตามลำดับ
- Metaverse Index (MVI) เป็นเหรียญ Metaverse ETF ซึ่งในตลาด crypto จะมี Supply สูงสุดอยู่ที่ 39,602 เหรียญเท่านั้น
- The SandBox (SAND) คือ เหรียญประเภท ERC-20 ที่จะใช้ในแพล็ตฟอร์ม Sandbox ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเสมือนบนบล็อกเชน เป็นการรวมตัวกันขององค์กรอิสระที่กระจายอำนาจ (DAO) และโทเค็น NFTs ซึ่งอนุญาตให้ผู้ใช้ในเกมสามารถซื้อ-ขาย และสร้างสินทรัพย์ดิจิทัลได้
- Radio Caca (RACA) เป็นเหรียญที่อยู่ในอันดับต้น ๆ ของเหรียญ crypto metaverse ที่ยังมีราคาไม่สูงมาก โดยเหรียญ RACA ใช้ในการกำกับดูแลของเกม Universal metaverse และ Metamon blockchain ที่เปิดตัวไปแล้วเมื่อเดือนสิงหาคมปีพ.ศ. 2563 และแพลตฟอร์มนั้นยังถูกพูดถึงว่าสามารถให้บริการตลาด NFT ที่เป็นบริการ Launchpad เบื้องต้นสำหรับเกมและบริการ Social Dapp Offer Launchpad สำหรับ Social Dapps ต่างๆได้ และยังมี Radio Caca NFT ที่เป็นผู้จัดการในเรื่องของ NFT อย่างเป็นทางการของ Maye Musk และจะมีการเปิดตัว Universal Metaverse เวอร์ชันทดสอบเบต้าในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2564 นี้ด้วย
- Star Atlas (ATLAS) คือ เหรียญดั้งเดิมของ Start Atlas ที่เป็นเกมอวกาศเสมือนจริงแบบผู้เล่นหลายคน ที่ผู้เล่นสามารถสร้างอวตารและเล่นเพื่อสร้างรายได้บนพื้นที่เสมือน 3 มิติ ที่เปิดตัวเมื่อเดือนกันยายน ปีพ.ศ. 2564
- UFO Gaming (UFO) เป็นเหรียญที่ใช้ในเกมระหว่างกาแล็กซี่ด้วยที่ดินเสมือนจริงบนตลาด NFT และ IDO Launchpad
- RedFOX Labs (RFOX) เป็นเหรียญดั้งเดิมของ RedFox labs ที่เป็นผู้สร้างและผู้ร่วมทุนสร้างบริษัทอินเทอร์เน็ตในตลาดที่เกิดใหม่อย่าง Bored Ape Yacht Club ซึ่งมีการสร้างและประมูลครั้งแรกจาก RedFox Labs RFOX
**การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดระมัดระวังในการลงทุน และลงทุนด้วยความไม่ประมาท**
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจolymptrade