วิธีการทำเงินจากที่บ้านในช่วง COVID-19

รายงานขององค์การอนามัยโลก (WHO) เมื่อวันที่ 7 มกราคม ปี 2020 ระบุว่า ไวรัส COVID-19 พิสูจน์แล้วว่าเป็นสาเหตุของโรคอุบัติใหม่ที่มีลักษณะคล้ายไข้หวัดใหญ่ และภายในเดือนมีนาคม ไวรัสชนิดนี้ระบาดถึง 110 ประเทศ และมีการยืนยันตัวเลขผู้ติดเชื้อกว่า 100,000 ราย

แม้ว่าจะมีการใช้มาตรการมากมายไม่ว่าจะเป็น การจำกัดการเดินทาง และการสั่งปิดภาคธุรกิจ ตัวเลขผู้ติดเชื้อ โควิด19 ทั่วโลกภายในเดือนพฤษภาคมพุ่งสูงขึ้นกว่า 5 ล้านราย โดยมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นประมาณ 100,000 รายในทุก ๆ วัน

คุณไม่จำเป็นต้องมีความรู้เกี่ยวกับการเทรดออนไลน์ก็คงเข้าใจได้ว่า เรากำลังอยู่ในช่วงเทรนด์ขาขึ้นอย่างชัดเจนโดยยังไม่มีสัญญาณการกลับตัวแต่อย่างใด

จำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในเดือนพฤษภาคมปี 2020

ในขณะเดียวกัน อัตราการว่างงานทำสถิติใหม่ที่โลกของเราไม่เคยเห็นมานับตั้งแต่ช่วงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่เมื่อช่วงปี ค.ศ. 1930 แม้ว่าการสรุปอัตราการว่างงานของโลกอย่างชัดเจนจะทำได้ยากในตอนนี้ แต่ตัวเลขทางการของจำนวนผู้ว่างงานในสหรัฐฯ ก็ถือว่าน่าเชื่อถือเพียงพอในการประมาณการตัวเลขในพื้นที่อื่น ๆ บนโลก ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากการสั่งปิดประเทศหนักยิ่งกว่าสหรัฐฯ

สถิติอัตราการว่างงานอย่างเป็นทางการในสหรัฐฯ ในเดือนพฤษภาคมปี 2020

ตัวเลขด้านบนนี้แสดงถึงจำนวนผู้ที่ขอใช้สิทธิ์สวัสดิการว่างงาน โดยยอดตัวเลขล่าสุดของผู้ขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลอันเนื่องมาจากการว่างงานและการไม่สามารถทำรายได้จากที่บ้านลดลงในทุกสัปดาห์

จำนวนผู้ขอใช้สวัสดิการว่างงานล่าสุด

เราพอมีความหวังที่จะหางานทำในช่วงโรคระบาด โควิด19 นี้ได้หรือไม่?

อาจดูเหมือนว่าสถานการณ์กำลังพัฒนาในทิศทางที่ดีขึ้นตั้งแต่เดือนเมษายน แต่ตัวเลขเหล่านี้คือสถิติที่แสดงให้เห็นว่า กระทรวงแรงงานได้รับคำขอใช้สิทธิ์สวัสดิการมากเท่าไรในแต่ละสัปดาห์ จำนวนนี้เพิ่มขึ้น และมีคนหลายคนที่ตั้งคำถามกับตนเองว่าจะหารายได้ในช่วงสถานการณ์เช่นนี้ได้อย่างไร ในช่วงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่นั้นใช้เวลาถึงหลายปีกว่าอัตราการว่างงานจะคิดเป็นสัดส่วน 25% ของประชากรทั้งหมด ในปีนี้เอง การแพร่ระบาดของ โควิด19 ส่งผลให้อัตราว่างงานสูงถึง 14.7% ภายในเดือนเมษายนเทียบกับ 3.6% เมื่อเดือนมกราคมปี 2020 ณ ตอนนี้ มีคนกว่า 27% ที่เป็นคนวัยคนหนุ่มคนสาวที่กำลังตกงาน พวกเขาไม่สามารถหางานทำและไม่รู้ว่าจะหาวิธีทำรายได้จากที่บ้านได้อย่างไรในช่วง โควิด19 .

สถานการณ์เลวร้ายยิ่งกว่าในหลายประเทศทั่วโลก สิ่งที่น่าเศร้าที่สุดก็คือ มันอาจจะแย่ลงกว่านี้ ธุรกิจหลายแห่งกำลังพยายามต่อสู้ดิ้นรนเพื่อให้อยู่รอด และหวังว่าจะกลับมาฟื้นตัวในช่วงการล็อคดาวน์สิ้นสุดลง อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครรู้เลยว่า สภาพสังคมจะกลับมาเหมือนในระดับช่วงก่อน โควิด19 ช้าเร็วขนาดไหน จะเป็นอย่างไรหากความหวังของเจ้าของธุรกิจไม่เป็นจริงและจะต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าภาคธุรกิจและสังคมจะฟื้นฟูกลับมายังระดับเดิมเหมือนในปี 2019

จริงอยู่ที่ดัชนีหุ้นเติบโตขึ้นในตอนนี้ แต่สาเหตุหลักเกือบทั้งหมดที่ตลาดอยู่ในช่วงขาขึ้นนี้ คือ การอัดฉีดเงินจำนวนมหาศาลโดยรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ใช้เพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ พวกเขาไม่แม้แต่จะปิดบังข้อเท็จจริงนี้และยังยืนยันด้วยว่า พวกเขาจะพิมพ์ธนบัตรดอลลาร์ใหม่ ๆ และออกพันธบัตรต่อไปเพื่อช่วยเหลือบริษัทชั้นนำ เวลาเท่านั้นที่จะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่ามาตรการทั้งหลายเหล่านี้จะเป็นประโยชน์สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก ร้านคาเฟ่ ร้านเสริมสวย และร้านค้าปลีกที่เป็นธุรกิจที่เลี้ยงปากท้องของครอบครัวหลายล้านคนได้หรือไม่

ความกังวลที่สำคัญที่สุด คือ บริษัทชั้นนำขนาดใหญ่จะทรุดตัวหนักแต่จะรอดพ้นวิกฤติหลังภาวะเศรษฐกิจถดถอยผ่านไป แต่ประชาชนธรรมดา ๆ ที่ต้องสูญเสียทั้งงานและธุรกิจขนาดย่อมนั้นจะไม่ได้รับความช่วยเหลือเท่าใดนัก สิ่งสำคัญเป็นอย่างยิ่ง คือ การหาวิธีทำรายได้จากที่บ้านในช่วงล็อคดาวน์ โควิด19 การเทรดออนไลน์กับ Olymp Trade คือ หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการบรรลุเป้าหมายนี้

ข้อดีหลักของการทำเงินออนไลน์กับ Olymp ในช่วง โควิด19

1.ฉวยโอกาสจากตลาดทั้งในช่วงขาขึ้นและขาลง

การเทรดกับ Olymp Trade ทำให้คุณไม่ต้องคอยกังวลว่าราคาหุ้น ดัชนี หรือสินค้าโภคภัณฑ์นั้นจะขยับขึ้นหรือลง คุณสามารถทำเงินได้ไม่ว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจโลกจะอยู่ในภาวะใดก็ตาม การเทรดมีหลักการที่ตรงกันข้ามกับการลงทุน โดยการเทรดออนไลน์สามารถทำกำไรได้ไม่ว่าราคาจะขยับในทิศทางใด

2. ฉวยโอกาสจากความผันผวนที่เพิ่มขึ้น

นักเทรดทุกท่านคงพอเคยเห็นสถิติเหล่านี้ในปฏิทินเศรษฐกิจที่เราพูดถึงข้างต้น จำนวนผู้ขอใช้สวัสดิการว่างงานล่าสุดนั้นจะประกาศในทุก ๆ วันพฤหัสบดี ซึ่งเวลาในการประกาศข่าวสถิติเหล่านี้ คือ หนึ่งในช่วงเวลาที่มีความผันผวนสูงที่สุดในตลาดการเงินทั่วโลก เนื่องจากตัวเลขเหล่านี้มีอิทธิพลโดยตรงต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐและตลาดหุ้น นักเทรดออนไลน์จะรู้วิธีในการเทรดฉวยโอกาสจากความผันผวนที่เพิ่มขึ้น สิ่งเดียวกันเกิดขึ้นในทุก ๆ ครั้งที่มนุษยชาติประสบกับความท้าทายใหม่ ๆ หรือเกิดข่าวดีใหม่ ๆ เช่นกัน

วิถีชีวิตที่รวดเร็วยิ่งขึ้นทำให้เรารับรู้ข่าวสารที่สำคัญรวดเร็วมากกว่าที่เคย ซึ่งความเร็วนี้มีความสัมพันธ์โดยตรงกับอัตราการเพิ่มขึ้นหรือลดลงของมูลค่าสินทรัพย์ ตัวอย่างเช่น ไม่กี่ปีก่อนนั้นเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่ราคาน้ำมันดิบจะขยับขึ้นถึง 20% ในเวลา 6 เดือน แต่การปรับขึ้นของราคาน้ำมันดิบในตอนนี้ใช้เวลาเพียงหนึ่งวันก็ถือเป็นเรื่องปกติ

การเทรดฟอเร็กซ์กับ Olymp Trade ซึ่งอนุญาตการเทรดพร้อมความเสี่ยงต่ำ จึงให้ประโยชน์มากที่สุดในตอนนี้ ความผันผวนที่เพิ่มขึ้นในราคา หมายความว่า นักเทรดออนไลน์มีโอกาสที่จะทำรายได้เพิ่มขึ้นในระยะเวลาเพียงหนึ่งวัน การหาจุดเข้าตำแหน่งที่ดีและใช้คำสั่ง stop-loss จะช่วยในการจำกัดระดับความเสี่ยงให้อยู่ในระดับต่ำ ตัวอย่างเช่น การเทรดทองคำนี้ ความเสี่ยงต่ำกว่าผลกำไรที่คาดการณ์ถึง 15 เท่า เมื่อคุณติดตามเทรนด์ คุณจำเป็นต้องทำนายได้อย่างถูกต้องอย่างน้อยแค่ 1 ครั้งจากทั้งหมด 10 ครั้งก็สามารถทำเงินได้เพียงและได้กำไรโดยรวม

เทรดทองคำในตลาดฟอเร็กซ์บน Olymp Trade

3. ฉวยโอกาสจากการเทรดไร้ความเสี่ยงกับ Olymp Trade

ผู้ที่ไม่สามารถหางานทำได้อันเนื่องมาจาก โควิด19 มักมีภาวะซึมเศร้าหรือมักเสียเวลาไปกับการดูซีรีย์บนทีวี จริง ๆ แล้ว คุณสามารถใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์โดยการรับชมเว็บบินาร์ของ Olymp Trade หาความเชี่ยวชาญในการเทรดออนไลน์ ทดสอบ และพัฒนากลยุทธ์ใหม่ ๆ บัญชีทดลองมีให้บริการอย่างไม่จำกัดที่นี่ คุณจึงสามารถฝึกทักษะได้เท่าที่คุณต้องการ อย่างไรก็ตาม คุณต้องจำไว้ว่าเงินในบัญชีทดลองนั้นกินไม่ได้

ด้วยเหตุนี้ ทางที่ดีคุณควรจะเริ่มเทรดด้วยเงินฝากอย่างน้อยจำนวนไม่มากบนบัญชีเงินจริงของคุณ คุณอาจจะเริ่มด้วยเงินเพียง $10 เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีโอกาสในการชนะรางวัลการเทรดไร้ความเสี่ยงกับ Olymp Trade หรือรับเงินโบนัสจากการเทรดบนบัญชีเงินจริงโดยเข้าร่วมทัวร์นาเมนต์ เว็บบินาร์ และชุมชนออนไลน์บน Olymp Trade ได้อีกด้วย การติดตามกลุ่ม Olymp Trade บน Facebook ในประเทศของคุณจะช่วยให้คุณได้รับทั้งข้อมูลข่าวสารที่ทันสมัยล่าสุดเกี่ยวกับข้อเสนอของโบรกเกอร์นี้ และยังสามารถศึกษาจากประสบการณ์และบทเรียนของนักเทรดท่านอื่น ๆ ได้ด้วยเช่นกัน ปัจจุบันในเดือนมิถุนายน 2563 มียอดผู้ติดเชื้อโควิด 19 กว่า 8.1 ล้านรายทั่วโลก ได้รับผลกระทบกว่า 213 ประเทศ